Share the post "นายวีรชัย ทองอินทร์ (พี่ปาล์ม) คอลัมน์สัมภาษณ์ศิษย์เก่า (จุลสารราชมงคลธัญบุรี | July – September 2017)"
Q: แนะนำตัวให้น้อง ๆ ได้รู้จักกันเลยค่ะ
A: สวัสดีครับพี่ปาล์มครับ นายวีรชัย ทองอินทร์ สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีการศึกษา 2558 ปัจจุบันทำงานตำแหน่ง Installation Engineer บริษัท Varian Medical Systems
Q: ตำแหน่งงาน และลักษณะงานที่ทำ เกี่ยวกับอะไรคะ
A: ตำแหน่งงานของผมคือ Installation Engineer หรือ วิศวกรติดตั้ง หรือ ง่ายๆช่างติดตั้งครับ เป็นการติดตั้งเครื่องมือของบริษัทให้กับลูกค้าในประเทศต่าง ๆ ในโซน ASIA ของเราครับ โดยเครื่องมือที่ว่าของบริษัทนี้ เกี่ยวกับเครื่องฉายรังสีที่ใช้ในการรักษามะเร็ง หรือที่เราพอจะทราบกันในชื่อแผนกรังสีรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งทำให้ผมต้องเดินทางไปต่างประเทศเรียกได้ว่าทุกเดือนเพื่อไปติดตั้งเครื่องฉายรังสีครับ
Q: งานที่ทำตรงกับสายการเรียนที่เรียนมาหรือเปล่าคะ หรือว่ามีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างไรคะ นำวิชาที่เรียนมาปรับใช้ในการทำงานอย่างไรบ้าง
A: สำหรับงานที่ทำเกี่ยวกับสายงานวิศวกรรมไหม แต่จะใช่วิศวกรรมไฟฟ้าโดยตรงไหมก็ไม่ใช่ทั้งหมดครับ โดยความเกี่ยวข้องของเจ้าเครื่องฉายรังสีกับวิศวกรรมไฟฟ้านั้นมีแค่เครื่องนี้จำเป็นต้องใช้ระบบไฟฟ้าแรงสูงเป็นแหล่งกำเนิดครับ โดยวิชาที่นำมาใช้ได้โดยตรงสำหรับวิศวกรรมไฟฟ้าก็คือ POWER ELECTRONIC ครับ โดยส่วนที่เหลือก็จะมีในด้านของอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ทำให้ผมจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อศึกษาในส่วนที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมพอสมควรครับ
Q: จุดเริ่มต้นที่ มทร.ธัญบุรี
A: ที่เลือกเรียน มทร.ธัญบุรี เพราะว่า หลังจากที่ผมจบการศึกษาระดับ ปวช. ผมช่วยงานที่บ้าน 1 ปีเต็ม ก่อนจะตัดสินใจเรียนต่อ ทำให้ผมจำเป็นต้องหามหาวิทยาลัยที่รับตรงวุฒิ ปวช. ประกอบกับไม่ต้องการจะสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ทางครอบครัวมากเกินความจำเป็นครับ เลยเลือกที่จะเข้ามาเรียนต่อที่นี่ครับ
Q: ระหว่างที่เรียนทำกิจกรรมอะไรบ้างคะ
A: กิจกรรมที่ได้ทำระหว่างศึกษาอยู่ใน มทร. ธัญบุรี มีหลายอย่างมากครับ นับตามชั้นปี ตอนปี 2 ผมเป็นรองประธานนักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า, เป็น นศ.แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่นในโครงการ YU summer camp 2013 ที่จัดขึ้นที่ Yamagata University ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่หลังจากที่ได้ขึ้นปี 4 ก็ได้พักเรื่องกิจกรรมลงเพราะต้องออกสหกิจศึกษา และโปรเจคจบครับ แต่ก็ยังร่วมกิจกรรมคือ เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งเป็นตั้งแต่ปี 2 ถึง ปี 4 เลยครับ
Q: ความผูกพันและความประทับใจ ใน มทร.ธัญบุรี
A: ความประทับใจ อย่างแรกคือ ประทับใจอาจารย์ผู้สอนครับ ท่านมีความเป็นกันเอง ให้คำปรึกษาได้ในหลายๆเรื่อง อย่างที่สองคือเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้โอกาสนักศึกษาเยอะมาก เพราะมหาวิทยาลัยมีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาในทุก ๆ ปี อย่างที่สามคือ เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมาครับ จะไม่มีการแข่งแย่งชิงดีกันเลยในห้องเดียวกัน เรียกได้ว่าจะเป็นการช่วยกันเรียนกันสอนเลยครับ เพราะผมก็ไม่ใช่คนที่เรียนเก่งมาก ก็อาศัยมีเพื่อนๆ พี่ๆ นี่แหละครับ ที่คอยช่วยเหลือกัน
Q: ชีวิตในการเรียน และชีวิตในการทำงานต่างกันอย่างไรบ้าง เล่าให้น้อง ๆ ฟังหน่อยค่ะ
A: วัยเรียนเป็นวัยที่มีความเครียดน้อยกว่าวัยทำงานมากครับ เพราะวัยเรียนคือวัยที่เรายังใช้ชีวิตตามตารางเรียน เราสามารถรู้ได้ว่าเราจะเจออะไรบ้างในวันพรุ้งนี้ ทำให้การจัดการง่ายเพราะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหันในเรื่องเรียน แต่วัยทำงาน เป็นวัยที่เราไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยครับว่าพรุ้งนี้จะต้องทำอะไรบ้าง เพราะการทำงานเราต้องเตรียมพร้อมรับกับสิ่งที่ไม่คาดฝันที่จะเกิดขึ้นเสมอ เพราะสิ่งที่ไม่คาดฝัน ไม่ได้มีแค่เรื่องงาน แต่ยังรวมไปถึงเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการไปพร้อม ๆ กันด้วย
Q: คิดว่าสถานประกอบการต้องการบัณฑิตที่มีคุณสมบัติอย่างไรในการทำงานบ้างคะ
A: เรียนรู้ไว สู้งานได้ มั่นคง ไม่ย่อท้อ และมีความตั้งใจและใส่ใจในการทำงานครับ เพราะไม่มีบริษัทไหนอยากสอนงานให้พนักงานเกินกว่า 3 เดือน หรือก็คือช่วงโปรฯ ไม่มีบริษัทไหนอยากรับคนที่เกี่ยงงานไม่สู้งาน ไม่มีบริษัทไหนที่อยากรับคนที่เปลี่ยนงานบ่อย และถ้าหากเราเปลี่ยนงานบ่อย บริษัทจะมองว่าเราเป็นคนยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆครับ
Q: สิ่งสำคัญที่สุดในปัจจุบันสำหรับการสมัครงาน ช่วยแนะนำน้อง ๆหน่อยค่ะ
A: สมัยนี้อย่างแรกเลยที่สถานประกอบการพึงประสงค์มากที่สุดเลยคือ ความสามารถด้านภาษาครับ ซึ่งเรื่องนี้คือเรื่องที่สำคัญมากต่อการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อที่จะขยายธุรกิจ รองลงมาคือ ความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าและทักษะในการทำงาน เพราะสิ่งที่ฝึกกันได้ง่ายที่สุดคือทักษะการทำงาน แต่สิ่งที่ฝึกกันได้ยากและจำเป็นต้องใช้เวลาคือ ภาษาและมุมมองครับ
Q: สุดท้ายนี้มีอะไรแนะนำน้องๆที่อยากประสบความสำเร็จหน่อยค่ะ
เกินรามีทั้ง 4 ด้าน จะทำให้ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกิรคว้าเลยครับ้มีความรู้ความสามารถในด้านอื่นๆ ไม่ใช่มีแค่เกรดเฉลี่ยดีอย่างเดียวA: ฝากถึงน้องๆ ว่าชีวิตในการเรียนที่กำลังจะหมดลงในอีก 4 ปี เป็นช่วงเวลาที่ต้องเก็บเกี่ยวส่วนประกอบของชีวิตที่เราอยากจะเป็นครับ อยากให้พยายามเก็บสิ่งที่เรียกว่าความรู้ในหลายๆด้านครับ ทั้งด้านเรียน ด้านกิจกรรม ด้านมุมมอง และด้านจิตใจ ซึ่งความรู้ในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องเรียนนั้น จะไม่ได้อยู่ในหน้าหนังสือครับ เราจำเป็นต้องลองทำกิจกรรมเพื่อศึกษาในด้านนั้นๆ เพื่อที่เราจะได้มีความรู้ความสามารถในด้านอื่นๆ ไม่ใช่มีแค่เกรดเฉลี่ยดีอย่างเดียว ถ้าเรามีทั้ง 4 ด้าน จะทำให้ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินคว้าเลยครับ