เตรียมตัวเข้าสู่เสรีทางการค้าด้วยตัวเอง
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน จุลสารที่ท่านถืออยู่นี้ กำลังเขียนอยู่ในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองในบ้านเรานั้นไม่ดีนัก มีแต่การประท้วงก่อม็อบ ยึดสถานที่ราชการต่างๆ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย สับสน ใครถือข้างใครก็จะว่าข้างนั้นถูกต้อง มีการปล่อยข่าวที่ไม่ดีต่อประเทศไทย ที่ผมเกริ่นมานี้ เพราะต้องการบันทึกไว้ และขอเรียนทุกท่านว่า ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการรับชม รับฟังและยึดถือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า อย่าเชื่อไม่ว่าจะมีคนมาบอก อย่าเชื่อในสิ่งที่คนอื่นสอน จะต้องพิสูจน์ให้เห็นจริงด้วยตัวของตัวเองนะครับ
บนสถานการณ์ความวุ่นวายของบ้านเมือง ในขณะที่เรากำลังเข้าสู่การค้าเสรี ASEAN ดูเหมือนว่าไทยเราไม่มีความพร้อมในการที่จะเข้าสู่การค้าเสรีทั้ง ๆ ที่ประเทศสมาชิกอีก ๙ ประเทศนั้นมีความก้าวหน้ามากกว่าประเทศไทย แล้วเราควรจะทำอย่างไรดี คำตอบก็คือ เราเตรียมความพร้อมของตัวเราเอง เพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้า ซึ่งจะมีผลภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ นับจากวันนี้ไปอีกประมาณ ๒ ปี เท่านั้น
เราควรจะเตรียมตัวอะไรก่อน ผมขอแนะนำให้ทุกคนเตรียมตัวในด้านภาษาอังกฤษ ด้วยการฝึกฝนทักษะในการพูด ทางด้านการเขียนนั้น คนไทยเรามีทักษะมากกว่าการพูด หากสามารถศึกษาทั้งการพูดและการเขียนพร้อมกัน นั่นก็จะยิ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
หลักในการฝึกฝนทักษะในการพูดนั้น มีช่องทางหลายช่องทาง กล่าวคือ การฝึกฝนทักษะจากเพลง /เทปสอนภาษา
การฝึกฝนทักษะในรูปแบบนี้ ควรจะต้องหาเนื้อเพลงมาอ่านควบคู่ไปกับการร้องเพลงด้วย ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับเทปสอนภาษา
การฝึกฝนทักษะจากเพื่อน
ในการฝึกฝนจากเพื่อนนั้น ผมขอแนะนำให้จัดตั้งชมรมภาษา (อังกฤษ –จีน) ขึ้นมาในมหาวิทยาลัย (หากมีการจัดตั้งอยู่แล้ว ก็เป็นการดี) โดยมีวิธีการดำเนินงาน ดังนี้
๑. ให้กรรมการชมรมชักชวนเพื่อนนักศึกษาทุกคณะ ทุกปี เข้าร่วมเป็นสมาชิกของชมรม โดยเก็บค่าสมาชิกปีละ ๔๐.๐๐ บาท (เป็นตัวเลขสมมติ อาจมากกว่าได้) ซึ่งจะได้เงินเข้าชมรมประมาณ ๘๘๐,๐๐๐.๐๐ บาท จากนักศึกษา จำนวน ๒๒,๐๐๐ คน ในการชักชวนเป็นสมาชิกนั้น ให้รวมนักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาด้วย
๒. ให้กรรมการชมรม เชิญเพื่อนนักศึกษาต่างชาติ ชาวยุโรปและจีนให้เข้ามาร่วมเป็นผู้ฝึกสอนทักษะในการพูดภาษาอังกฤษ / จีน
๓. ให้กรรมการหานักศึกษาต่างชาติจากที่อื่น หรือผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยวระยะเวลานานเข้ามาเป็นผู้ฝึกสอนทักษะในการพูด ซึ่งเป็นการพูดที่ยกระดับสูงขึ้นกว่าข้อ ๒.
๔. ให้จัดตั้ง Course เรียนภาษาขึ้น โดยหาอาจารย์ต่างชาติเข้ามาฝึกสอนอย่างจริงจัง สำหรับ Course แบบนี้ สามารถที่จะรับผู้ที่สนใจเรียนจากภายนอกได้ด้วยโดยมีการคิดอัตราการเรียนแตกต่างกัน เช่น Course ละ ๔๐ ชม. ราคา ๓,๐๐๐.๐๐ บาท สำหรับบุคคลทั่วไปและราคา ๑,๒๐๐.๐๐ บาท สำหรับสมาชิกนักศึกษา เป็นต้น
เริ่มต้นเตรียมตัวเองด้วยการฝึกฝนภาษาสำหรับการเข้าสู่ AECด้วยวิธีข้างต้น เป็นการเริ่มต้นนำความยั่งยืนสู่รุ่นน้องต่อๆ ไปด้วย
