Share the post "คอลัมน์สัมภาษณ์ศิษย์เก่า เสนอความภาคภูมิใจของ 2 ศิษย์เก่า นายจิรายุ กลัดทิมและนายจิรายุ ชุณหมุกดา ผู้ก่อตั้งแบรนด์ JIRAYU ARTCOUTURE"
สวัสดีค่ะ แนะนำตัวเองให้น้องๆ ได้รู้จักหน่อยค่ะ
กรุ๊ป : สวัสดีครับผมชื่อนายจิรายุ กลัดทิม ชื่อเล่นว่ากรุ๊ปครับ
อ้น : ส่วนผมนายจิรายุ ชุณหมุกดา ชื่อเล่นอ้นครับ ตอนเรียนอาจารย์ชอบเรียกคู่แฝด B1&B2 เพราะชอบทำอะไรเหมือนกันตลอด ทั้งอาจารย์ รุ่นพี่รุ่นน้องก็เรียกชื่อสลับกันไปมาจนเป็นเรื่องขำ เราทั้งคู่จบการศึกษาปีการศึกษา ๒๕๕๑ จากคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์
จุดเริ่มต้นที่เลือกเรียนสาขานี้
กรุ๊ป: ผมเป็นคนที่รักงานศิลปะ ชอบวาดรูป ชอบงานฝีมืองานประดิษฐ์ งานเย็บปักถักร้อย และติดตามแฟชั่นทั้งในไทยและต่างประเทศ ตอนมัธยมเรียนสายวิทย์-คณิตมาก็จริง แต่ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยผมบอกกับตัวเองเลยว่าจะเลือกเรียนในสิ่งที่รักและต้องทำให้สำเร็จผมจึงเลือกมาเรียนที่นี่ครับ
อ้น: เริ่มต้นจากผมเป็นคนชอบอ่านแมกกาซีนแฟชั่นมากๆ ชอบดูแฟชั่นโชว์งานเสื้อผ้าชั้นสูง ขั้นตอนการออกแบบตัดเย็บ ชอบอ่านประวัติการสร้างแบรนด์แฟชั่น แม้จะจบสายวิทย์-คณิตเช่นกัน แต่เมื่อรู้ว่าที่นี่มีการสอนแฟนชั่นจึงเลือกเรียนที่นี่ครับ
แชร์ประสบการณ์ในการเรียนให้น้องๆ ฟังหน่อยค่ะ
กรุ๊ป:ตอนเรียนอยู่ในระดับที่น่าพอใจครับ เกรดเฉลี่ย ๓.๓ เคล็ดลับในการเรียนของผมคือสิ่งแรกต้องขยันและอดทนครับ ฝึกฝนทักษะให้ชำนาญการวาดรูปการออกแบบตัดเย็บ เป็นหัวใจสำคัญเลยต้องหาแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัวและคิดบวกอยู่เสมอ รวบรวมเอาจินตนาการของเราใส่ลงไปในผลงานแฟชั่น ต้องสวยงามร่วมสมัย ใส่ได้จริง และถ้ามีโอกาสก็ส่งผลงานเข้าประกวดเพื่อหาประสบการณ์
อ้น:ตอนเรียนอยู่ในระดับที่พอใจเช่นกันครับ เกรดเฉลี่ย ๓.๑ เคล็ดลับในการเรียนของผม ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ต้องค้นหาสไตล์ของตัวเองให้เจอ อ่านหนังสือและเก็บข้อมูลเยอะๆ ในแมกกาซีนแฟชั่นชั้นนำบทความต่างๆ บทเรียน เทคนิคการตัดเย็บที่อาจารย์ประกอบกับการสร้างสรรค์ผลงาน
สิ่งที่ประทับใจ ณ มทร.ธัญบุรี
กรุ๊ป: มากกว่าคำว่าประทับใจ คือความภูมิใจที่จบจากที่นี่ครับการเรียนการสอนที่นี่ฝึกให้เราได้ปฏิบัติจริงทุกขั้นตอน”ดีไซเนอร์ออกแบบเป็นก็ต้องตัดเย็บเป็น”คำนี้จำได้ดีเลย การเรียนแบบนี้สอนให้ผมเป็นคนลุยๆ ครับ ไม่เกี่ยงงาน ใส่ใจทุกขั้นตอน เปิดใจในสิ่งใหม่ๆ ลดอีโก้ตัวเองให้น้อยลง มีความนอบน้อม พอจบออกมาทำงานจริงๆ จึงรู้ว่าสิ่งที่อาจารย์สอนมาเป็นจริงทั้งหมดและใช้ในการทำงานได้จริงแม้ตอนนี้เราเป็นเป็นดีไซเนอร์คอยเป็นหัวหน้าคุมงานไม่ได้เย็บผ้าเองทั้งหมด แต่เราต้องควบคุมช่างเย็บผ้าและอธิบายแบบได้ส่วนความทรงจำดีๆ คือการได้ส่งผลงานประกวดและทำแฟชั่นโชว์กับทางขณะเราต้องสู้กันจนสว่างกับเพื่อนๆ จนผลงานเป็นที่พึ่งพอใจงานที่ดีต้องมีทีมที่สตรองครับ
อ้น: ประทับใจเช่นกันครับ พอมาเรียนที่นี่จึงได้รู้ดีไซเนอร์ นอกจากความชอบแล้ว ต้องมีทักษะด้านอื่นร่วมด้วย ทั้งการออกแบบตัดเย็บ ศึกษาประวัติความเป็นมาการสร้างแบรนด์การจัดการสิ้นค้า จึงอยากบอกน้องๆให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้ไปมากๆ เพื่อเอาไปประกอบอาชีพ ส่วนความทรงจำดีๆก็คล้ายๆ กันคือได้ทำแฟชั่นโชว์นั่นเอง ได้แสดงผลงานของตัวเองสู่สายตาทุกคู่จากการร่วมใจกันในกลุ่มเพื่อนและอาจารย์ที่คอยสนับสนุนให้คำปรึกษา
ที่มาของ JIRAYU ART COUTURE
กรุ๊ป : ผมกับอ้นชอบงานเสื้อผ้าแนวชุดราตรี ชุดแต่งงาน หลังจากที่เราได้ไปฝึกงานในห้องเสื้อผ้าและจบการศึกษา สมัครทำงานในช่างเสื้อในห้องเสื้ออยู่ ๓ ปี ออกมาเป็นฟรีแลนซ์ดีไซเนอร์เก็บประสอบการณ์อีก ๒ ปี จึงตัดสินใจร่วมกันเปิดห้องเสื้อขึ้นมาครับ ช่วงแรกต้องอดทนมากๆเลยเพราะร้านเรายังใหม่ยังไม่มีชื่อเสียง ยอดขายอาจจะไม่เยอะเท่าที่ควร แต่เราไม่นั่งตบยุงเหมือนที่เจ้าของกิจการหน้าใหม่ๆช่วงนั้นก็ตัดเย็บชุดโชว์ทั้งหน้าร้านเราเองและส่งร้านใหญ่ๆซึ่งเป็นลูกค้าของเราตอนยังเป็นฟรีแลนซ์เลี้ยงร้านมาเรื่อยๆ ผมยังจำเจ้าสาวคนเเรกที่เข้ามาใช้บริการได้ดีเลยครับ แม้ชุดร้านเรายังไม่เยอะ ร้านไม่ได้หรูหราใหญ่โต แต่เจ้าสาวก็สรุปตัดชุดกับเราซึ่งคุณแม่เจ้าสาวบอกว่าเเม่ก็เคยเป็นช่างตัดเสื้อเห็นงานก็มองออกว่าเป็นชุดงานสั่งตัด ไม่ใช่ชุดสำเร็จรูป และมีอยู่ประโยคหนึ่งที่คุณแม่พูดกับเราแล้วทำให้เราปลื้มใจมากๆคือ “แม่ดูออกงานที่ทำด้วยใจมองยังไงก็สวย” จุดพลังให้เราสร้างสรรค์ผลงานออกมาเรื่อยๆ ครับ
แฟชั่นของ JIRAYU ART COUTURE
อ้น : แฟชั่นหลักๆของเราเป็นงานด้านชุดของเจ้าสาว ชุดแต่งงาน ชุดไทยเจ้าสาว ชุดหมั้น ชุดยกน้ำชา ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ชุดราตรีเพื่อนเจ้าสาว ชุดสูทเจ้าบ่าว ชุดไทยเจ้าบ่าว ชุดราตรีและชุดสูทผู้ใหญ่ครับ
จุดเด่นของ JIRAYU ART COUTURE
กรุ๊ป : การออกแบบผลงานให้ดูสวยงามมีสไตล์ที่ชัดเจน สวมใส่ได้จริง มีความคลาสสิคร่วมสมัย ดึงจุดเด่นผู้สวมใส่และอำพรางจุดที่ไม่มั่นใจ การบริการที่เป็นกันเอง ลูกค้าที่มาที่ร้านจะได้พบกับดีไซเนอร์โดยตรงซึ่งจะให้คำปรึกษาและแนะนำ สเก็ตวาดแบบ วัดตัวอย่างละเอียด”ชุดที่สวยต้องพอดีกับรูปร่างของเจ้าของชุด” เราให้ความสำคัญกับสิ่งนี้มากๆ เพราะเมื่อลูกค้าใส่ชุดได้สวยพอดีมีความมั่นใจ บวกกับการบริการที่ดี ทำให้เขารู้สึกประทับใจ ภูมิใจที่ได้ใส่ชุดของเราและยังช่วยแนะนำห้องเสื้อเราให้คนที่เขารู้จักมาใช้บริการ
จากดีไซเนอร์รุ่นใหม่มาเป็น Topแบรนด์ของประเทศ
อ้น : เริ่มแรกจากที่เราเป็นฟรีแลนซ์ดีไซเนอร์ ทำชุดสั่งให้ห้องเสื้อใหญ่ๆ หรือร้านเปิดใหม่จนเขามีชื่อเสียง จนทำให้เรามั่นใจว่าผลงานของเราต้องเข้าตาผู้บริโภคเราจึงตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเองการถ่ายแฟชั่น wedding แมกกาซีนครั้งแรกของเรา ชุดแรกเป็นลูกไม้ฝรั่งเศสทรงเมอร์เมด เรามีเซ๊นส์ทางแฟชั่นว่าต่อไปกระแสแฟชั่นชุดแต่งงานทรงนี้ต้องมาแรง นำแสดงแบบโดยเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ตอนนั้นกระแสละครเรื่องแรงเงาดังมากทำให้ชุดนี้กลายเป็นที่จดจำ และเป็น signature ของร้านห้องเสื้อ JIRAYU ART COUTURE ชุดนี้ขายดีมากๆครับแตกไลน์เป็นชุดอื่นๆอีกเยอะเลย และอีกส่วนชื่อเสียงของห้องเสื้อเราก็มาจากผลงานทุกชิ้นที่เราตั้งใจทำออกมาเรื่อยๆ บวกกับการบริการอย่างเป็นกันเอง น่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เราเริ่มเป็นสิ่งที่รู้จักและบอกต่อทั้งในกลุ่มของสื่อนิตยสารและกลุ่มลูกค้า
ผลงานที่ผ่านมาของ JIRAYU ART COUTURE
กรุ๊ป : เราได้สร้างสรรค์ผลงานชุดแต่งงานให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวหลายคู่ รวมทั้งได้ลงแฟชั่นในแมกกาซีนชั้นนำ เช่น WE,BRIDE,I DO Magazine ร่วมงานกับนางแบบ ดารานักแสดง จนตอนนี้ JIRAYU ART COUTURE ครบรอบ ๓ ปีละครับเราโชคดีที่ได้ทำงานที่เรารักและจะทำให้ดีที่สุดทั้งงานบริการและงานออกแบบตัดเย็บเพื่อรอยยิ้มและความสุขของเจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคู่ แทนคำขอบคุณที่ไว้ใจให้เราช่วยดูแลชุดในวันสำคัญ
ความสำเร็จกับเจ้าของแบรนด์ที่อายุยังน้อยและอยากให้แนะนำน้องๆ รุ่นใหม่ที่มีความฝันหน่อยค่ะ
อ้น : สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ควรมีนะครับคือ ความอดทนและรักในงานที่เราทำ ทุกปัญหาที่เข้ามาเราต้องพร้อมรับมือและสู้ในทุกสถานการณ์ เมื่อมีโอกาสเข้ามาเราต้องทำงานออกมาให้ดีที่สุด มีใจบริการ จริงใจ นอบน้อม รู้จักเรียนรู้ในสิ่งที่เราผิดพลาดและพร้อมที่จะแก้ไขให้ดี พัฒนาศักยภาพตัวเองไม่หยุดนิ่งจะประสบความสำเร็จแน่นอนครับ